เครื่องหมายวรรคตอนและกฎเกณฑ์
เครื่องหมายวรรคตอน ถูกกำหนดไว้ใน Google ว่า
เครื่องหมายวรรคตอน คำ นาม
“เครื่องหมายต่างๆ เช่น จุด เครื่องหมายจุลภาค และเครื่องหมายวงเล็บ ใช้ในการเขียนเพื่อแยกประโยคและส่วนประกอบต่างๆ ของประโยค และเพื่อชี้แจงความหมาย” แต่ก่อนอื่น ขอยกคำพูดตลกๆ เกี่ยวกับ เครื่องหมายวรรคตอนมา พูดก่อน:
“ฉันอยากเปลี่ยนเครื่องหมายวรรคตอน ฉันอยากได้เครื่องหมายอัศเจรีย์ แต่กลับจมอยู่กับจุดไข่ปลา” ― ไอแซ็ก มาริออน, Warm Bodies เครื่องหมายวรรคตอนที่สำคัญที่สุดในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ได้แก่ จุด เครื่องหมายคำถาม เครื่องหมายอัศเจรีย์ เครื่องหมายจุลภาค เครื่องหมายโคลอน เครื่องหมายขีดกลาง เครื่องหมายยัติภังค์ เครื่องหมายวงเล็บ เครื่องหมายวงเล็บปีกกา เครื่องหมายอะพอสทรอฟี เครื่องหมายคำพูด และจุดไข่ปลา
คุณต้องทราบฟังก์ชันของ เครื่องหมายวรรคตอน หลักแต่ละอันเพื่อที่จะเขียนภาษาอังกฤษได้ดี
เครื่องหมายวรรคตอนแบ่งภาษาเขียนออกเป็นส่วนที่ระบุได้โดยใช้สัญลักษณ์ เครื่องหมายวรรคตอนยังระบุด้วยว่าประโยคนั้นออกเสียงอย่างไร โดยเน้นที่จุดใด หยุดที่จุดใด เป็นต้น การใช้และการวางตำแหน่ง หรือการขาดการใช้และการวางตำแหน่งอื่นของเครื่องหมายวรรคตอน (เราทุกคนรู้จักการเปรียบเทียบวลีว่า ‘Let’s eat, Grandma.’ กับ ‘Let’s eat Grandma.’) สามารถเปลี่ยนความหมายของประโยคได้อย่างสิ้นเชิง
เครื่องหมายวรรคตอนใช้ในประโยคอย่างไร
เครื่องหมายวรรคตอนใช้ในเนื้อความของประโยคและท้ายประโยค เครื่องหมายวรรคตอนเหล่านี้พบที่ท้ายประโยค ได้แก่ จุด เครื่องหมายคำถาม และเครื่องหมายอัศเจรีย์ เครื่องหมายวรรคตอนเหล่านี้พบในเนื้อความของประโยค ได้แก่ เครื่องหมายจุลภาค เครื่องหมายโคลอน เครื่องหมายอัศเจรีย์ เครื่องหมายยัติภังค์ และเครื่องหมายขีดกลาง อาจปรากฏจุดไข่ปลาหรือจุดแขวนทั้งที่ท้ายประโยคและในเนื้อความของประโยค บ่อยครั้งมีการใช้เครื่องหมายวรรคตอนมากกว่าหนึ่งเครื่องหมายในประโยคเดียว “อย่าเหยียบลานบ้านที่เพิ่งทาสีใหม่!” จุดประสงค์หลักของเครื่องหมายวรรคตอนคือเพื่อจัดกลุ่มคำเป็นรูปแบบไวยากรณ์ เพื่อให้ความหมายที่ผู้เขียนตั้งใจไว้ชัดเจน การใช้ เครื่องหมายวรรคตอน อย่างถูกต้องจะช่วยให้เกิดความหมาย การแสดงออก และสัญลักษณ์ในการสนทนาในภาษาอังกฤษที่พูดและเขียน